8 กันยายน 2558

ภาวะน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยโรคเบาหวาน

ภาวะน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยโรคเบาหวาน


       ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือ “ไฮโปไกลซีเมีย” (Hypoglycemia) เกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำตาลต่ำกว่าช่วงค่าที่กำหนดไว้

สาเหตุของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
  • ทานอาหารน้อยเกินไป
  • ทานคาร์โบไฮเดรตในปริมาณน้อยเกินไป
  • เริ่มทานอาหารมื้อหลักหรืออาหารว่างล่าช้ากว่าที่ควร
  • งดอาหารมื้อหลักหรืออาหารว่าง
  • ออกกำลังกายหักโหมหรือนานกว่าปกติ
  • ฉีดอินซูลินหรือทานยาเบาหวานชนิดเม็ดมากเกินไป
  • ป่วย
  • ดื่มแอลกอฮอล์ในขณะท้องว่าง
       สัญญาณเตือนภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำมีหลายประการ และอาการอันเป็นสัญญาณเตือนที่เกิดกับคุณก็อาจต่างไปจากที่เกิดกับผู้อื่น ดังนั้นจึงต้องเรียนรู้อาการเตือนระยะแรกของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำที่เกิดกับคุณด้วยตัวเองและบอกให้ผู้อื่นทราบเพื่อช่วยสังเกตอาการ อาการเหล่านี้ได้แก่
โมโหฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย ปวดมวนท้อง กระวนกระวาย วิงเวียนศีรษะ ง่วงเหงาหาวนอน ตัวเย็น กระสับกระส่ายไม่สบายใจ มีอาการชา เหงื่อออก สับสน ตัวซีด เครียด หิว ซึมเศร้า เหนื่อยล้า มีอาการสั่น อ่อนแรง ตาพร่ามัว ปากแห้ง ปวดศีรษะ หรือหัวใจเต้นแรง
หากคุณมีอาการดังกล่าว จำเป็นต้องรีบบำบัดทันที ไม่เช่นนั้นคุณอาจหน้ามืดเป็นลมได้ และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคืออาจหมดสติ เข้าสู่ภาวะโคม่า และถึงกับเสียชีวิตได้

วิธีบำบัดรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำด้วยตนเอง
  1. ตรวจระดับน้ำตาลด้วยเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง ......หากค่าน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าช่วงค่าเป้าหมาย...
  2. รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 15 กรัม (รายชื่ออาหารและเครื่องดื่มบางส่วน)
  3. รอ 15 -20 นาที แล้วทำการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอีกครั้ง
       หากระดับค่าน้ำตาลในเลือดยังอยู่ต่ำกว่าช่วงค่าเป้าหมายหลังทำตามขั้นตอนที่ 2 และ3 แล้ว ควรโทรหาแพทย์ประจำตัวคุณและไปโรงพยาบาลพร้อมผู้ช่วยเหลืออีกสักหนึ่งท่าน

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ให้ผู้อื่นช่วยดูแล
       บางครั้งคุณอาจไม่สามารถดูและและบำบัดอาการน้ำตาลในเลือดต่ำได้ด้วยตนเอง คุณอาจไม่ทันสังเกตอาการอันเป็นสัญญาณเตือนที่เกิดขึ้น หรือระดับน้ำตาลที่ต่ำอาจจะทำให้คุณรู้สึกสับสนจนทำอะไรไม่ถูก ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด คุณควรจะสอนให้ใครสักคนรู้วิธีที่จะช่วยเหลือคุณในภาวะนั้นเสียแต่เนิ่นๆ
ควรมีอาหารสำหรับบำบัดอาการน้ำตาลในเลือดต่ำไว้ใกล้ตัวตลอดเวลา เช่น น้ำผลไม้กล่องเล็กๆ กลูโคสชนิดเม็ด และอย่าลืมบอกให้คนอื่นรู้ว่าของเหล่านี้อยู่ที่ได
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หรือ”ไฮเปอร์ไกลซีเมีย” (Hyperglycemia) เกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำตาลต่ำกว่าช่วงค่าที่กำหนดไว้

สาเหตุของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
  • ทานอาหารมากเกินไป
  • ฉีดอินซูลินในปริมาณน้อยเกินไป
  • ทานยาเบาหวานชนิดเม็ดน้อยเกินไป
  • ป่วย
  • งดการออกกำลังกายที่เคยทำตามปกติ
  • เครียด
  • ไม่ได้ฉีดอินซูลินที่ใช้อยู่
  • ไม่ได้ทานยาเบาหวานชนิดเม็ดที่ใช้อยู่
       สาเหตุเหล่านี้ประการใดประการหนึ่งหรือหลายประการรวมกันอาจส่งผลให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้ อาการอันเป็นสัญญาณเตือน อาจไม่ชัดเจนหรือคุณอาจคิดว่าเป็นอาการจากสาเหตุอื่น ดังนั้น การตรวจน้ำตาลในเลือดจึงเป็นวิธีดีที่สุดที่จะทำให้คุณรู้ได้ว่าระดับน้ำตาลในเลือดขณะนั้นอยู่ในช่วงที่เหมาะสมหรือไม่
สัญญาณเตือนภาวะน้ำตาลในเลือดสูง มีหลายอย่าง เช่น รู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนล้า อยากอาหารเพิ่มขึ้น กระหายน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย สายตาพร่ามัว ปวดมวนท้อง ผิวแห้งและคัน เป็นแผลเรื้อรังหายช้า มีอาการปวดเมื่อยตัวเหมือนจะเป็นไข้หวัด ปวดศีรษะ ลมหายใจมีกลิ่นรุนแรง
ถามตัวเองว่า "ทำไม" หากคุณพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดของคุณสูงเกินไป ให้แก้ปัญหาด้วยการตั้งคำถามเหล่านี้กับตนเอง
  • ได้เปลี่ยนตารางอาหารหรือรับประทานอาหารที่แตกต่างๆไปจากปกติหรือไม่
  • ได้งดหรือลดการออกกำลังกายไปหรือไม่
  • ลืมทานยา ทานยามากเกินไปหรือน้อยเกินไป หรือ ทานยาไม่ตรงเวลา หรือไม่
  • กำลังเครียดกับเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่า
  • กำลังเจ็บป่วยหรือมีอาการอักเสบติดเชื้ออยู่หรือไม่
       การตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงไม่ให้เกิดขึ้นอีกได้ในอนาคต การป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงจะช่วยไม่ให้เกิดอาการที่รุนแรงยิ่งกว่า ซึ่งเรียกว่า “ภาวะกรดคีโตน” หรือ “คีโตแอซิโดซิส” (Ketoacidosis) ระดับน้ำตาลในเลือดสูงที่ไม่ได้รับการบำบัดอาจนำไปสู่การเกิดภาวะกรดคีโตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ป้องกันได้
  • ใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์
  • ปฏิบัติตามตารางรับประทานอาหาร
  • ออกกำลังกายตามตารางที่กำหนดไว้อย่างสม่ำเสมอ
  • พยายามลดความเครียดในชีวิตลง
  • รักษาภาวะติดเชื้อหรือการเจ็บป่วยในทันที
  • ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ
วิธีบำบัดรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าช่วงค่าเป้าหมาย
1. ปฏิบัติตามคำแนะนำที่แพทย์เคยให้ไว้ แพทย์อาจแนะนำให้คุณ
      - ใช้อินซูลินออกฤทธิ์สั้นในปริมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากที่ใช้อยู่ปกติ
      - ออกกำลังด้วยการเดินหรือวิธีอื่นๆ
      - ลดปริมาณอาหารว่างมื้อถัดไปลง
      - ดื่มเครื่องดื่มปราศจากน้ำตาล
2. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดครั้งต่อไปหลังจากผ่านไป 1-2 ชั่วโมง
หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 240 มก. / ดล ควรตรวจหาคีโตนในปัสสาวะ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงอาจทำให้เกิดการก่อตัวของสารคีโตน